ร่วมกันสวดมนต์โพชฌังคปริตร อธิษฐานจิตถวายพระพร เพื่อให้พระอาการประชวรของในหลวงดีขึ้นในเร็ววัน พลังใจทุกดวงหลอมรวมกันเป็นพลังบริสุทธิ์ ถวายเป็นพระราชกุศล
การสวดโพชฌังคปริตร มีมาตั้งแต่สมัยพุทธกาลเลยทีเดียว ปฏิบัติสืบทอดกันมา 2555 ปีแล้ว
ซึ่งพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ท่านมักให้สวดเสมอเมื่อมีพระลูกวัดอาพาธ (ป่วย)
บทสวด "โพชฌังคปริตร"
ตั้งจิตอยู่ในอาการสงบ แล้วสวด นะโม ๓ จบ ตั้งจิตอธิษฐาน ถึงพระองค์ท่าน แล้วสวดดังนี้
โพชฌังโค สะติสังขาโต ธัมมานัง วิจะโย ตะถา
(โพชฌงค์ 7 ประการ คือ สติสัมโพชฌงค์ ธรรมวิจยะสัมโพชฌงค์)
วิริยัมปีติ ปัสสัทธิ โพชฌังคา จะ ตะถาปะเร
(วิริยะสัมโพชฌงค์ ปีติสัมโพชฌงค์ ปัสสัทธิสัมโพชฌงค์)
สะมาธุเปกขะโพชฌังคา
(สมาธิสัมโพชฌงค์ และอุเบกขาสัมโพชฌงค์)
สัตเตเต สัพพะทัสสินา มุนินา สัมมะทักขาตา
(7ประการเหล่านี้ เป็นธรรมอันพระมุนีเจ้า ผู้ทรงเห็นธรรมทั้งปวงตรัสไว้ชอบแล้ว)
ภาวิตา พะหุลีกะตา
(อันบุคคลเจริญแล้วกระทำให้มากแล้ว)
สังวัตตันติ อะภิญญายะ นิพพานายะ จะ โพธิยา
(ย่อมเป็นไปเพื่อความรู้ยิ่ง เพื่อความตรัสรู้ และเพื่อนิพพาน)
เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ
(ด้วยการกล่าวคำสัตย์นี้)
โสตถิ เต โหตุ สัพพะทา
(ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีแก่ท่าน ตลอดกาลทุกเมื่อ)
เอกัสมิง สะมะเย นาโถ โมคคัลลานัญจะ กัสสะปัง คิลาเน ทุกขิเต ทิสวา
(ในสมัยหนึ่ง พระโลกนาถเจ้า ทอดพระเนตรเห็นพระโมคคัลลานะ และพระมหากัสสปะเป็นไข้ ได้รับความลำบาก)
โพชฌังเค สัตตะ เทสะยิ
(จึงทรงแสดงโพชฌงค์ 7 ประการ ให้ท่านทั้งสองฟัง)
เต จะ ตัง อะภินันทิตวา
(ท่านทั้งสองนั้น ชื่นชมยินดียิ่ง ซึ่งโพชฌงคธรรม)
โรคา มุจจิงสุ ตังขะเณ
(โรคก็หายได้ในบัดดล)
เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ
(ด้วยการกล่าวคำสัตย์นี้)
โสตถิ เต โหตุ สัพพะทา
(ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีแก่ท่าน ตลอดกาลทุกเมื่อ)
เอกะทา ธัมมะราชาปิ เคลัญเญนาภิปีฬิโต
(ในครั้งหนึ่ง องค์พระธรรมราชาเอง (พระพุทธเจ้า) ทรงประชวรเป็นไข้หนัก)
จุนทัตเถเรนะ ตัญเญวะ ภะณาเปตวานะ สาทะรัง
(รับสั่งให้พระจุนทะเถระ กล่าวโพชฌงค์นั้นนั่นแลถวายโดยเคารพ)
สัมโมทิตวา จะ อาพาธา ตัมหา วุฏฐาสิ ฐานะโส
(ก็ทรงบันเทิงพระหฤทัย หายจากพระประชวรนั้นได้โดยพลัน)
เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ
(ด้วยการกล่าวคำสัตย์นี้)
โสตถิ เต โหตุ สัพพะทา
(ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีแก่ท่าน ตลอดกาลทุกเมื่อ)
ปะหีนา เต จะ อาพาธา ติณณันนัมปิ มะเหสินัง
(ก็อาพาธทั้งหลายนั้น ของพระผู้ทรงคุณอันยิ่งใหญ่ทั้ง 3 องค์นั้น หายแล้วไม่กลับเป็นอีก)
มัคคาหะตะกิเลสาวะ ปัตตานุปปัตติธัมมะตัง
(ดุจดังกิเลส ถูกอริยมรรคกำจัดเสียแล้ว ถึงซึ่งความไม่เกิดอีกเป็นธรรมดา)
เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ
(ด้วยการกล่าวคำสัตย์นี้)
โสตถิ เต โหตุ สัพพะทา.
(ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีแก่ท่าน ตลอดกาลทุกเมื่อ เทอญ)
หลังจากสวดมนต์จบ น้อมจิตเข้าหาตัวเรา สงบนิ่งพักอยู่จนจิตสงบ
พอจิตเราสงบ มีอาการโปร่งโล่งสบาย ก็พร้อมเหมาะควรแก่การอธิษฐานจิตถวายพระพรแด่ทั้งสองพระองค์
จากนั้นอธิษฐานจิตถวายพระพรแต่ทั้งสองพระองค์ ให้ทั้งสองพระองค์มีกำลังพระทัยที่เข้มแข็ง ให้หายจากพระอาการประชวรโดยไวค่ะ
ขอพลังใจของคนไทยช่วยกันสวดมนต์บทนี้ด้วยนะครับ
ReplyDeleteขอบคุณมากค่ะ
ReplyDelete